Marudo Koi Farm
บทสัมภาษณ์พิเศษ Mr.Hisashi Hirasawa
Koi-bito: ผู้เลี้ยงทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศต่างก็รู้จักชื่อ “ Marudo “ กันดีอยู่แล้ว เราอยากทราบว่าชื่อนี้มีความเป็นมาอย่างไรครับ
Hirasawa: ถ้าคุณมองไปรอบๆบริเวณนี้ คุณจะเห็นว่าตลอดทางที่เข้ามาจะมีศาลเจ้าเล็กๆอยู่บนเนินเขาเล็กๆทุกลูกซึ่งในภาษษญี่ปุ่นเราเรียกว่า ” Doh “ ตอนที่ผมจะเดินทางไปฝึกงานที่ Dinichi Koi Farm พ่อผมเขียนตัวหนังสือ” Doh “ เป็นตัวคันจิ แล้วเขียนวงกลมล้อมรอบ ซึ่งวงกลมในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า “ Muru ” จึงกลายมาเป็น “ Marudo Yorijo ” ครับ
Koi-bito: มันนานกี่ปีมาแล้วครับที่พ่อของคุณเริ่มเพาะปลาคราฟ
Hirasawa: คุณพ่อ……ขอคิดสักครู่ครับ…….ผมว่าพ่อเริ่มเพาะปลาตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้วครับ
Koi-bito: พ่อของคุณเริ่มเพาะปลาด้วยตนเอง ไม่ใช่การรับสืบทอดกิจการมาจากบรรพบุรุษสินะครับ
Hirasawa: ใช่ครับ พ่อผมรู้จักกับ Mr.Minoru Mano แห่ง Dinichi Koi Farm เป็นอย่างดี และการไปฝึกงานที่นั่นเป็นประโยชน์อย่างมากในการเริ่มกิจการของเรา
Koi-bito: พูดง่ายๆนั่นเหมือน ”โอกาส” ที่ได้รับมา แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเริ่มเพาะปลาครับ
Hirasawa: คุณถามถึงผมหรือพ่อของผมครับ
Koi-bito: ผู้พ่อครับ
Hirasawa: อืม….เขาไปมาหาสู่กับ Mr.Minoru Mano ค่อนข้างบ่อย ผมว่าสิ่งนั้นแหละครับที่ทำให้เขาต้องการที่จะลงมือทำเอง ซึ่งเขาทั้ง 2 คนเข้ากันได้ดีมากครับ
Koi-bito: เข้าใจแล้วครับ แล้วก่อนหน้านั้นพ่อของคุณทำอะไรมาก่อนครับ
Hirasawa: ก่อนที่ท่านจะมาเพาะปลา ท่านเป็นผู้รับเหมาก่อส้างบ่อปลาให้กับนักเลี้ยงปลาทั่วไปครับ
Koi-bito: คุณไปฝึกงานอย่างจริงจังที่ Dinichi Koi Farm ไม่ทราบว่าใช้เวลาที่นั่นกี่ปีครับ
Hirasawa: ผมคิดว่า ไม่ 17 ก็18 ปีครับ
Koi-bito: ที่คุณได้ไปศึกษาธุรกิจปลาคราฟขนาดใหญ่ที่ Dinichi Koi Farm เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ของ Mr.Minoru Mano กับคุณพ่อของคุณใช่หรือไม่ครับ
Hirasawa: ใช่ครับ การที่ผมไปฝึกงานที่ Dinichi Koi Farm นั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าผมชอบหรือสนใจเป็นการส่วนตัว แต่ว่าหัวข้อสนทนานี้เป็นหัวข้อที่ Mr.Minoru Mano มักจะพูดถึงเสมอๆเวลาท่านแวะมาหาพ่อผมครับ
Koi-bito: ถ้าอย่างนั้นความคิดนี้จริงๆแล้วมาจาก Mr.Minoru Mano เองหรือครับ
Hirasawa: ครับ และนั่นก็ส่งผลให้ผมไปเรียนรู้ที่ Dinichi และเปลี่ยนชีวิตผมให้กลายมาเป็นบรีดเดอร์ในวันนี้ครับ
Koi-bito: แล้วการฝึกงานที่นั่นเป็นอย่างไรครับ คุณใช้เวลาไปอย่างไรบ้างช่วยขยายความให้หน่อยครับ
Hirasawa: คุณใช้เวลาไปอย่างไรบ้าง….(หัวเราะ)….คุณหมายถึงงานที่ทำใช่ไหมครับ
Koi-bito: ใช่ครับ
Hirasawa: ผมทำงานทุกอย่างเลยครับ ผมใช้เวลาส่วนมากไปกับการช่วยเพาะปลา คัดปลา รวมถึงการอวนปลาในฤดูใบไม้ร่วงด้วยครับ และงานอีกอย่างหนึ่งของผม คือ การขายปลาเกรดธรรมดาทั่วๆไปที่รอการขาย Mr.Minoru Mano จะพูดกับผมว่า ”คุณจะขายมันได้ไหม”
Koi-bito: คุณเป็นพนักงานขายด้วยสิครับ
Hirasawa: ใช่ครับ
Koi-bito: บอกเราหน่อยสิครับว่า Mr.Minoru Mano เป็นอาจารย์แบบไหนครับ
Hirasawa: เริ่มด้วยประมาณว่า.. เขาไม่เคยพูดชัดๆว่าปลาตัวไหนดีหรือไม่ดี แต่เขาจะแนะนำให้เราคอยดูปลาตัวที่เขาชี้ให้เห็นว่าจะดีในอีกปีหรือ 2 ปี….. หลังจากนั้นเราก็จะเห็นผลลัพธ์ด้วยตาตนเอง และผลก็เป็นไปตามที่เขากล่าวเอาไว้ ยังไม่นับตัวที่เขาบอกว่าไม่ดีอีกนะครับ
Koi-bito: แสดงว่า Mr.Minoru Mano มีเซ็นส์ในเรื่องนี้ และปลาเหล่านั้นที่เขาแนะนำให้คุณดูแลก็ได้ผลลัพธ์ดังที่เขาคาดเอาไว้ใช่ไหมครับ
Hirasawa: พวกมันโตขึ้นเป็นเหมือนที่เขาได้กล่าวเอาไว้
Koi-bito: ไม่น่าเชื่อเลยครับ….แล้วคำสอนใดที่ยังคงอยู่ในใจของคุณเสมอจนทุกวันนี้
Hirasawa: ต้องเรื่องนี้เลยครับ “ ปลาคราฟไม่ใช่เรื่องของลวดลาย แต่เป็นเรื่องของรูปร่างและคุณภาพ “ “ ปลาที่ทำให้เกิดความประทับใจในภาพรวมได้เป็นปลาที่ดี “ ผมคิดว่าปลาที่มีรูปร่างใหญ่ดูอวบอิ่มตั้งแต่หัวจรดหางจะทำให้มีรูปร่างที่น่าประทับใจได้ครับ
Koi-bito: เข้าใจแล้วครับ แต่คุณบอกว่าเขาไม่เคยพูดเรื่องเหล่านี้ตรงๆ
Hirasawa: ใช่ครับ ยกตัวอย่างแบบนี้ เขาจะเรียกผมมาและถามผมว่า “ Hisashi คุณคิดว่าปลา 2 ตัวนี้ตัวไหนดีกว่ากัน “ ด้วยความที่เรายังใหม่เราก็มักจะเลือกปลาที่มีลวดลายดีกว่า เขาก็จะแก้ไขให้เราและกล่าวว่า”ในอีก 2-3 ปีปลาอีกตัวหนึ่งจะดีกว่า “ และเขามักจะเลือกถูกเสมอ ความแตกต่างจริงๆของปลานั้นอยู่ที่รูปร่างและคุณภาพ(ผิว) ที่ปลาตัวนั้นได้รับมา ถ้าคุณค่อยๆสังเกตุเรื่องนี้ด้วยตัวคุณเองตลอดระยะเวลา 2-3 ปีคุณจะเข้าใจ
Koi-bito: จากคำกล่าวนั้น คุณใช้เลากี่ปีกว่าที่คุณจะเข้าใจจริงๆครับ
Hirasawa: พอผมอายุได้ 25 ปี ผมคิดว่าผมรู้เรื่องปลาและเข้าใจปลาเป็นอย่างดี แต่พอมาถึงช่วงอายุ 27-30ปีผมก็ชนตออย่างจัง ผมรู้สึกว่า”ผมรู้แล้วแต่ความจริงคือผมยังไม่รู้” ในช่วงเวลานั้นผมเข้าใจเลยว่า ความเข้าใจที่ลึกซึ้งนั้นไม่ได้กันมาง่ายๆ
Koi-bito: คุณยังรู้สึกแบบนั้นอยู่ไหมตอนนี้
Hirasawa:ครับ ผมค่อนข้างจะเข้าใจว่าปลาตัวไหนดีและตัวไหนไม่ดี แต่ไม่มีทางเลยที่จะบอกได้100% ว่าตัวไหนจะสวยสมบูรณ์แบบ
Koi-bito: ปลาซันเก้ยี่ห้อ Marudo ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำไมคุณถึงเลือกที่จะทำซันเก้แทนที่จะเป็นปลาโคฮากุหรือโชว่า
Hirasawa: พ่อของผมชอบซันเก้มากและเพาะพันธุ์มานานมาก ยิ่งไปกว่านั้น Mr.Minoru Mano พูดกับผมว่า “ คุณมาที่นี่เพื่อเรียนรู้ปลาซันเก้ จงทุ่มเทให้กับมันมากกว่าอย่างอื่น “
Koi-bito: ดังนั้นคุณก็เลยทำตามคำแนะนำนั้น
Hirasawa: ครับ ผมขันอาสาเพาะมันด้วยความเต็มใจ แน่นอนครับว่าปลาซันเก้นั้นเพาะยากมาก แต่ผมก็รับคำท้าทายและตั้งใจอย่างจริงจัง
Koi-bito: ครับ แล้วปลาพ่อแม่พันธุ์ดั่งเดิมของฟาร์มมารูโดะมาจากไหนครับ
Hirasawa: เหมือนอย่างที่คุณเดาได้ครับ มาจากไดนิชิครับ สาย “ Dinichi Sadazo”
Koi-bito: ผมคิดว่านักเลี้ยงทั่วโลกรู้จักปลาซันเก้สาย Sadazo กันเป็นอย่างดี แต่ไม่น่าจะเคยได้ยินสาย Dinichi Sadazo นะครับ ช่วยอธิบายความแตกต่างเพิ่มเติมหน่อยครับ
Hirasawa: ผมคิดว่าผมคงไม่สามารถอธิบายถึงปลา Orginal Sadazo ได้ดีเพราะว่าผมไม่ค่อยมั่นใจที่จะกล่าวว่านี่ คือ Orginal Sadazo แต่ว่าถ้ากล่าวถึง Dinichi Sadazo นั้นเป็นที่รู้กันดีว่าปลาจะมี Sashi-Zumi และสีแดงที่ดี อีกทั้งมีรูปร่างที่ดีดูสวยเต็มไปจนถึงส่วนหาง
Koi-bito: ปลาพ่อแม่พันธุ์ซันเก้ที่นำมาจากไดนิชินั้น คุณนำมันมาไว้ที่ฟาร์มตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
Hirasawa: ประมาณ 30 ปีที่แล้ว
Koi-bito: ครับ คุณต้องได้ยินชื่อปลาซันเก้ ” O-yuki “ เมื่อพูดถึงปลาที่เป็นที่น่าจดจำของฟาร์มไดนิชิแน่ๆ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรครับ
Hirasawa:อ้า….ใช่แล้ว(คิดย้อนกลับไป) นั่นเป็นปลาซันเก้ที่ Hosoki sensei ซื้อไป มันเป็นปลาที่มีผิวที่ดีมากๆ เป็นปลาที่ได้รางวัลใหญ่ในงาน Nogyosai หลายปีก่อน เป็นปลาที่มีลวดลายข้างเดียวที่ดูเป็นเอกลักษณ์มาก
Koi-bito: ปลาตัวนั้นถูกเพาะโดย Mr. Mano หรือเปล่าครับ
Hirasawa: ไม่ครับ มันมาจาก Izumiya ผ่านทาง Mr. Gensuke Maruyama เนื่องจาก Mr. Maruyama มักจะมาที่ไดนิชิเมื่อเขามานิอิกาตะ และหลังจากที่เขาซื้อปลาตัวนี้จาก Izumiya และแวะมาที่ไดนิชิ เขาปล่อยปลาลงบ่อและดูปลาตัวนี้ว่ายไปมาพร้อมๆกับ Mr. Mano จะด้วยอะไรก็ตาม Mr. Mano ถามว่า”ทำไมไม่ปล่อยปลาซันเก้ที่งดงามตัวนี้ไว้ที่นี่กับผมละ” ดังนั้น Mr. Maruyama ก็เลยทิ้งมันไว้ที่ไดนิชิตั้งแต่นั้นมา
Koi-bito: มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
Hirasawa: เรื่องนี้น่าสนใจมากครับ Mr. Maruyama เจอปลาตัวนี้ที่ Izumiya ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 200 เมตรจากไดนิชิและเขานำมันมาที่ไดนิชิเพื่อทำการแพ็คปลา แต่แล้วเมื่อ Mr. Mano เห็นปลาและเกิดชอบใจ มันเหมือนเป็นวงจรของนักเลี้ยงปลาในพื้นที่เลยครับ
Koi-bito: แล้ว Mr. Maruyama ก็ทิ้งปลาไว้แบบนั้นเลยเหรอครับ
Hirasawa: ใช่ครับ เขาทั้ง 2 คนสนิทกันมากครับ
Koi-bito: แล้วเจ้า” O-yuki “ ได้ถูกนำกลับมาเป็นแม่พันธุ์บ้างหรือเปล่าครับ
Hirasawa: ไม่เลยครับ
Koi-bito: ปลาซันเก้ที่คุณผลิตในปัจจุบัน เราเข้าใจว่ามาจาก Gosuke ถูกไหมครับ
Hirasawa: ใช่ครับ มันเป็นเรื่องเมื่อ 15 ปีที่แล้ว มีปลาซันเก้ที่ดีเหมาะกับการเป็นพ่อแม่พันธุ์ปลาอยู่ตัวหนึ่งที่Gosuke’s place ทำให้ Mr. Hiroji Sakai ไหว้วานให้ Mr.Takeda และ Mr. Ikuwa ช่วยเจรจาต่อรอง สุดท้ายเขาทั้ง2คนก็ซื้อปลาตัวนั้นกลับมาให้ Mr. Hiroji Sakai จนได้และนำมันมาที่ไดนิชิเพื่อรอการส่งต่อไปที่ซาไก ซึ่งตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นมันผมคิดกับตัวเองว่า”ผมอยากเพาะปลาตัวนี้” ผมพยายามขอซื้อปลาตัวนี้จาก Mr.Takeda แต่ว่าไม่ได้ผล แต่ด้วยความที่ผมอยากได้ปลาตัวนี้เป็นอย่างมากผมจึงขอร้อง Mr. Mano ให้ช่วยเจรจา และ Mr. Mano ได้โทรคุยกับ Mr.Takeda ว่า” ช่วยบอก Mr. Hiroji Sakai ด้วยว่าผมเสียใจจริงๆแต่คนของผมอยากได้ปลาตัวนี้มาก…………………….” สุดท้ายผมก็ได้ปลาตัวนี้มาจาก Mr. Hiroji Sakai ครับ
Koi-bito: คุณต้องอยากได้มันมากแน่ๆ แล้วปฎิกิริยาของ Mr. Mano เป็นอย่างไรหลังจากที่คุณบอกว่าคุณอยากได้ปลาตัวนี้
Hirasawa: อืม...ปลาตัวนี้มีสีแดงที่น้อยมากๆแต่ชั้นสีแดงนั้นหนาอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนรูปร่างก็เต็มดีจรดหางและได้สัดส่วน ผมต้องการมันตั้งแต่แรกเห็นแต่ด้วยผมเป็นแค่ลูกจ้างที่ไดนิชิกินเงินเดือนเท่านั้นและปลาตัวนี้แพงเป็นล้านเยนทำให้ Mr. Manoถามผมว่า”คุณซื้อไหวจริงๆเหรอ ถ้าไหว ชั้นก็สามารถขอมาให้ได้” ผมตอบไปว่า”ไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องเอามาให้ได้” สุดท้ายปลาตัวนี้ก็มาอยู่ที่มารูโดะครับ ผมยอมรับตรงๆเลยว่าผมเองก็เครียดอยู่เหมือนกันตอนที่ Mr. Mano ถามผม
Koi-bito: ตอนที่คุณตัดสินใจซื้อ คุณคิดว่ามันจะแพงมากไหม
Hirasawa: ไม่เลยผมคิดว่าอย่างมากก็ 1 ล้านเยนแต่สุดท้ายก็เกินกว่านั้นครับ(หัวเราะ)
Koi-bito: จากนั้นปลาซันเก้ตัวนี้ก็กลายเป็นแม่พันธุ์หลักของคุณ
Hirasawa:ใช่ครับ ผมเพาะมันอยู่ 2 ปี(2ครั้ง) ได้ปลาที่มีคุณภาพจำนวนหนึ่ง
Koi-bito: แล้วลูกๆมันไปอยู่ที่ไหนบ้างครับ
Hirasawa:ไปอยูกับ Mr. Shinji Matsumoto …ผมมีเรื่องเล่าอยู่นิดหน่อยครับ ตอนที่ผมได้ปลาตัวนี้มาจาก Mr. Hiroji Sakai นั้นเขาบอกผมว่าเขาตั้งใจว่าจะใช้ปลาเพศผู้จากการเพาะปลาตัวนี้มาทำพ่อพันธุ์ที่ฟาร์มซาไก ผมจึงส่งปลาไปให้เขา 2-3 ตัวและมันได้กลายเป็นพ่อพันธุ์ของปลาซันเก้ที่ซาไก
Koi-bito: ปลาแกรนแชมป์งาน All Japan ครั้งที่ 32 เป็นลูกที่เกิดจากปลาที่คุณส่งไปให้หรือเปล่าครับ
Hirasawa: ใช่ครับ
Koi-bito: คุณรู้ไหมครับว่า Mr. Hiroji Sakai จับคู่พ่อพันธุ์นั้นกับปลาอะไร
Hirasawa: ผมคิดว่าเขาน่าจะจับคู่กับแม่พันธุ์ที่เขาเพาะขึ้นเอง
Koi-bito: คุณยังมีพ่อแม่พันธุ์Gosukeอยู่ไหมครับ
Hirasawa: ไม่ครับ ผมเพาะมันได้แค่ 3 – 4 ปีก่อนที่มันจะตาย
Koi-bito: แล้วคุณมีลูกของมันที่เก็บไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ไหมครับ
Hirasawa:มีครับ และผมก็กำลังใช้มันอยู่ครับ
Koi-bito: ถ้างั้น Bloodline นี้ก็ยังมีอยู่สิครับ
Hirasawa:ถูกต้องครับ
Koi-bito: แล้วมีกี่คู่ครับที่เก็บไว้
Hirasawa: แม่พันธุ์ 3 ตัว กับพ่อพันธุ์ 2 ตัวครับ
Koi-bito: คุณจับคู่มันกับซันเก้สายอื่นสินะครับ
Hirasawa:ใช่ครับ
Koi-bito: คุณทำเช่นนี้เพื่อป้องกันการผสมสายเลือดที่ใกล้กันสิครับ
Hirasawa: ก็ไม่เชิงครับ ผมจะจับคู่กับปลาที่ผมอยากจะลอง
Koi-bito: ช่วยยกตัวอย่างปลาที่คุณใช้จับคู่ตอนนี้หน่อยสิครับ
Hirasawa: ตอนนี้ผมจับคู่มันกับ Matsunosuke หรือไม่ก็ Dainishi Sadazo
(ปลาแม่พันธุ์จาก matsunosuke และซ้ายมือปลาพ่อพันธุ์จากGosuke และขวาบนปลาพ่อพันธุ์จากไดนิชิ)
Koi-bito: แล้วลูกปลาที่เกิดมาเป็นอย่างไรบ้างครับ
Hirasawa: เราได้ลูกปลาที่มีคุณภาพดีไม่มากนัก
Koi-bito: แล้วสีดำเป็นอย่างไรบ้างครับ
Hirasawa: สีดำดีเลยครับ มี Kakuzumi ( square zumi )ที่ดูสวยงามตา
Mr.Hisashi Hirasawa ผู้ซึ่งได้รับการสั่งสอนและขัดเกลาจาก Mr.Minoru Mano แห่ง Dinichi Koi Farm เป็นเวลาถึง 18 ปี และเป็นผู้ที่สืบสานวิถีทางการเพาะปลาสายพันธุ์ซันเก้จากผู้เป็นบิดา เขามีความตั้งใจที่จะสร้างชื่อของตนเองที่ไม่ใช่แค่สำหรับปลาซันเก้เท่านั้น แต่เขายังมองไปถึงปลาโคฮากุและปลาโชว่าด้วย และเรื่องราวทั้งหมดก็จะถูกเปิดเผยในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ รวมถึงเรื่องราวที่มีทั้งช่วงที่เป็นขาขึ้นและขาลงของฟาร์มชื่อดังนี้
Koi-bito: ผู้เลี้ยงทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศต่างก็รู้จักชื่อ “ Marudo “ กันดีอยู่แล้ว เราอยากทราบว่าชื่อนี้มีความเป็นมาอย่างไรครับ
Hirasawa: ถ้าคุณมองไปรอบๆบริเวณนี้ คุณจะเห็นว่าตลอดทางที่เข้ามาจะมีศาลเจ้าเล็กๆอยู่บนเนินเขาเล็กๆทุกลูกซึ่งในภาษษญี่ปุ่นเราเรียกว่า ” Doh “ ตอนที่ผมจะเดินทางไปฝึกงานที่ Dinichi Koi Farm พ่อผมเขียนตัวหนังสือ” Doh “ เป็นตัวคันจิ แล้วเขียนวงกลมล้อมรอบ ซึ่งวงกลมในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า “ Muru ” จึงกลายมาเป็น “ Marudo Yorijo ” ครับ
Koi-bito: มันนานกี่ปีมาแล้วครับที่พ่อของคุณเริ่มเพาะปลาคราฟ
Hirasawa: คุณพ่อ……ขอคิดสักครู่ครับ…….ผมว่าพ่อเริ่มเพาะปลาตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้วครับ
Koi-bito: พ่อของคุณเริ่มเพาะปลาด้วยตนเอง ไม่ใช่การรับสืบทอดกิจการมาจากบรรพบุรุษสินะครับ
Hirasawa: ใช่ครับ พ่อผมรู้จักกับ Mr.Minoru Mano แห่ง Dinichi Koi Farm เป็นอย่างดี และการไปฝึกงานที่นั่นเป็นประโยชน์อย่างมากในการเริ่มกิจการของเรา
Koi-bito: พูดง่ายๆนั่นเหมือน ”โอกาส” ที่ได้รับมา แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเริ่มเพาะปลาครับ
Hirasawa: คุณถามถึงผมหรือพ่อของผมครับ
Koi-bito: ผู้พ่อครับ
Hirasawa: อืม….เขาไปมาหาสู่กับ Mr.Minoru Mano ค่อนข้างบ่อย ผมว่าสิ่งนั้นแหละครับที่ทำให้เขาต้องการที่จะลงมือทำเอง ซึ่งเขาทั้ง 2 คนเข้ากันได้ดีมากครับ
Koi-bito: เข้าใจแล้วครับ แล้วก่อนหน้านั้นพ่อของคุณทำอะไรมาก่อนครับ
Hirasawa: ก่อนที่ท่านจะมาเพาะปลา ท่านเป็นผู้รับเหมาก่อส้างบ่อปลาให้กับนักเลี้ยงปลาทั่วไปครับ
Koi-bito: คุณไปฝึกงานอย่างจริงจังที่ Dinichi Koi Farm ไม่ทราบว่าใช้เวลาที่นั่นกี่ปีครับ
Hirasawa: ผมคิดว่า ไม่ 17 ก็18 ปีครับ
Koi-bito: ที่คุณได้ไปศึกษาธุรกิจปลาคราฟขนาดใหญ่ที่ Dinichi Koi Farm เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ของ Mr.Minoru Mano กับคุณพ่อของคุณใช่หรือไม่ครับ
Hirasawa: ใช่ครับ การที่ผมไปฝึกงานที่ Dinichi Koi Farm นั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าผมชอบหรือสนใจเป็นการส่วนตัว แต่ว่าหัวข้อสนทนานี้เป็นหัวข้อที่ Mr.Minoru Mano มักจะพูดถึงเสมอๆเวลาท่านแวะมาหาพ่อผมครับ
Koi-bito: ถ้าอย่างนั้นความคิดนี้จริงๆแล้วมาจาก Mr.Minoru Mano เองหรือครับ
Hirasawa: ครับ และนั่นก็ส่งผลให้ผมไปเรียนรู้ที่ Dinichi และเปลี่ยนชีวิตผมให้กลายมาเป็นบรีดเดอร์ในวันนี้ครับ
Koi-bito: แล้วการฝึกงานที่นั่นเป็นอย่างไรครับ คุณใช้เวลาไปอย่างไรบ้างช่วยขยายความให้หน่อยครับ
Hirasawa: คุณใช้เวลาไปอย่างไรบ้าง….(หัวเราะ)….คุณหมายถึงงานที่ทำใช่ไหมครับ
Koi-bito: ใช่ครับ
Hirasawa: ผมทำงานทุกอย่างเลยครับ ผมใช้เวลาส่วนมากไปกับการช่วยเพาะปลา คัดปลา รวมถึงการอวนปลาในฤดูใบไม้ร่วงด้วยครับ และงานอีกอย่างหนึ่งของผม คือ การขายปลาเกรดธรรมดาทั่วๆไปที่รอการขาย Mr.Minoru Mano จะพูดกับผมว่า ”คุณจะขายมันได้ไหม”
Koi-bito: คุณเป็นพนักงานขายด้วยสิครับ
Hirasawa: ใช่ครับ
Koi-bito: บอกเราหน่อยสิครับว่า Mr.Minoru Mano เป็นอาจารย์แบบไหนครับ
Hirasawa: เริ่มด้วยประมาณว่า.. เขาไม่เคยพูดชัดๆว่าปลาตัวไหนดีหรือไม่ดี แต่เขาจะแนะนำให้เราคอยดูปลาตัวที่เขาชี้ให้เห็นว่าจะดีในอีกปีหรือ 2 ปี….. หลังจากนั้นเราก็จะเห็นผลลัพธ์ด้วยตาตนเอง และผลก็เป็นไปตามที่เขากล่าวเอาไว้ ยังไม่นับตัวที่เขาบอกว่าไม่ดีอีกนะครับ
Koi-bito: แสดงว่า Mr.Minoru Mano มีเซ็นส์ในเรื่องนี้ และปลาเหล่านั้นที่เขาแนะนำให้คุณดูแลก็ได้ผลลัพธ์ดังที่เขาคาดเอาไว้ใช่ไหมครับ
Hirasawa: พวกมันโตขึ้นเป็นเหมือนที่เขาได้กล่าวเอาไว้
Koi-bito: ไม่น่าเชื่อเลยครับ….แล้วคำสอนใดที่ยังคงอยู่ในใจของคุณเสมอจนทุกวันนี้
Hirasawa: ต้องเรื่องนี้เลยครับ “ ปลาคราฟไม่ใช่เรื่องของลวดลาย แต่เป็นเรื่องของรูปร่างและคุณภาพ “ “ ปลาที่ทำให้เกิดความประทับใจในภาพรวมได้เป็นปลาที่ดี “ ผมคิดว่าปลาที่มีรูปร่างใหญ่ดูอวบอิ่มตั้งแต่หัวจรดหางจะทำให้มีรูปร่างที่น่าประทับใจได้ครับ
Koi-bito: เข้าใจแล้วครับ แต่คุณบอกว่าเขาไม่เคยพูดเรื่องเหล่านี้ตรงๆ
Hirasawa: ใช่ครับ ยกตัวอย่างแบบนี้ เขาจะเรียกผมมาและถามผมว่า “ Hisashi คุณคิดว่าปลา 2 ตัวนี้ตัวไหนดีกว่ากัน “ ด้วยความที่เรายังใหม่เราก็มักจะเลือกปลาที่มีลวดลายดีกว่า เขาก็จะแก้ไขให้เราและกล่าวว่า”ในอีก 2-3 ปีปลาอีกตัวหนึ่งจะดีกว่า “ และเขามักจะเลือกถูกเสมอ ความแตกต่างจริงๆของปลานั้นอยู่ที่รูปร่างและคุณภาพ(ผิว) ที่ปลาตัวนั้นได้รับมา ถ้าคุณค่อยๆสังเกตุเรื่องนี้ด้วยตัวคุณเองตลอดระยะเวลา 2-3 ปีคุณจะเข้าใจ
Koi-bito: จากคำกล่าวนั้น คุณใช้เลากี่ปีกว่าที่คุณจะเข้าใจจริงๆครับ
Hirasawa: พอผมอายุได้ 25 ปี ผมคิดว่าผมรู้เรื่องปลาและเข้าใจปลาเป็นอย่างดี แต่พอมาถึงช่วงอายุ 27-30ปีผมก็ชนตออย่างจัง ผมรู้สึกว่า”ผมรู้แล้วแต่ความจริงคือผมยังไม่รู้” ในช่วงเวลานั้นผมเข้าใจเลยว่า ความเข้าใจที่ลึกซึ้งนั้นไม่ได้กันมาง่ายๆ
Koi-bito: คุณยังรู้สึกแบบนั้นอยู่ไหมตอนนี้
Hirasawa:ครับ ผมค่อนข้างจะเข้าใจว่าปลาตัวไหนดีและตัวไหนไม่ดี แต่ไม่มีทางเลยที่จะบอกได้100% ว่าตัวไหนจะสวยสมบูรณ์แบบ
Koi-bito: ปลาซันเก้ยี่ห้อ Marudo ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำไมคุณถึงเลือกที่จะทำซันเก้แทนที่จะเป็นปลาโคฮากุหรือโชว่า
Hirasawa: พ่อของผมชอบซันเก้มากและเพาะพันธุ์มานานมาก ยิ่งไปกว่านั้น Mr.Minoru Mano พูดกับผมว่า “ คุณมาที่นี่เพื่อเรียนรู้ปลาซันเก้ จงทุ่มเทให้กับมันมากกว่าอย่างอื่น “
Koi-bito: ดังนั้นคุณก็เลยทำตามคำแนะนำนั้น
Hirasawa: ครับ ผมขันอาสาเพาะมันด้วยความเต็มใจ แน่นอนครับว่าปลาซันเก้นั้นเพาะยากมาก แต่ผมก็รับคำท้าทายและตั้งใจอย่างจริงจัง
Koi-bito: ครับ แล้วปลาพ่อแม่พันธุ์ดั่งเดิมของฟาร์มมารูโดะมาจากไหนครับ
Hirasawa: เหมือนอย่างที่คุณเดาได้ครับ มาจากไดนิชิครับ สาย “ Dinichi Sadazo”
Koi-bito: ผมคิดว่านักเลี้ยงทั่วโลกรู้จักปลาซันเก้สาย Sadazo กันเป็นอย่างดี แต่ไม่น่าจะเคยได้ยินสาย Dinichi Sadazo นะครับ ช่วยอธิบายความแตกต่างเพิ่มเติมหน่อยครับ
Hirasawa: ผมคิดว่าผมคงไม่สามารถอธิบายถึงปลา Orginal Sadazo ได้ดีเพราะว่าผมไม่ค่อยมั่นใจที่จะกล่าวว่านี่ คือ Orginal Sadazo แต่ว่าถ้ากล่าวถึง Dinichi Sadazo นั้นเป็นที่รู้กันดีว่าปลาจะมี Sashi-Zumi และสีแดงที่ดี อีกทั้งมีรูปร่างที่ดีดูสวยเต็มไปจนถึงส่วนหาง
Koi-bito: ปลาพ่อแม่พันธุ์ซันเก้ที่นำมาจากไดนิชินั้น คุณนำมันมาไว้ที่ฟาร์มตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
Hirasawa: ประมาณ 30 ปีที่แล้ว
Koi-bito: ครับ คุณต้องได้ยินชื่อปลาซันเก้ ” O-yuki “ เมื่อพูดถึงปลาที่เป็นที่น่าจดจำของฟาร์มไดนิชิแน่ๆ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรครับ
Hirasawa:อ้า….ใช่แล้ว(คิดย้อนกลับไป) นั่นเป็นปลาซันเก้ที่ Hosoki sensei ซื้อไป มันเป็นปลาที่มีผิวที่ดีมากๆ เป็นปลาที่ได้รางวัลใหญ่ในงาน Nogyosai หลายปีก่อน เป็นปลาที่มีลวดลายข้างเดียวที่ดูเป็นเอกลักษณ์มาก
Koi-bito: ปลาตัวนั้นถูกเพาะโดย Mr. Mano หรือเปล่าครับ
Hirasawa: ไม่ครับ มันมาจาก Izumiya ผ่านทาง Mr. Gensuke Maruyama เนื่องจาก Mr. Maruyama มักจะมาที่ไดนิชิเมื่อเขามานิอิกาตะ และหลังจากที่เขาซื้อปลาตัวนี้จาก Izumiya และแวะมาที่ไดนิชิ เขาปล่อยปลาลงบ่อและดูปลาตัวนี้ว่ายไปมาพร้อมๆกับ Mr. Mano จะด้วยอะไรก็ตาม Mr. Mano ถามว่า”ทำไมไม่ปล่อยปลาซันเก้ที่งดงามตัวนี้ไว้ที่นี่กับผมละ” ดังนั้น Mr. Maruyama ก็เลยทิ้งมันไว้ที่ไดนิชิตั้งแต่นั้นมา
Koi-bito: มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
Hirasawa: เรื่องนี้น่าสนใจมากครับ Mr. Maruyama เจอปลาตัวนี้ที่ Izumiya ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 200 เมตรจากไดนิชิและเขานำมันมาที่ไดนิชิเพื่อทำการแพ็คปลา แต่แล้วเมื่อ Mr. Mano เห็นปลาและเกิดชอบใจ มันเหมือนเป็นวงจรของนักเลี้ยงปลาในพื้นที่เลยครับ
Koi-bito: แล้ว Mr. Maruyama ก็ทิ้งปลาไว้แบบนั้นเลยเหรอครับ
Hirasawa: ใช่ครับ เขาทั้ง 2 คนสนิทกันมากครับ
Koi-bito: แล้วเจ้า” O-yuki “ ได้ถูกนำกลับมาเป็นแม่พันธุ์บ้างหรือเปล่าครับ
Hirasawa: ไม่เลยครับ
Koi-bito: ปลาซันเก้ที่คุณผลิตในปัจจุบัน เราเข้าใจว่ามาจาก Gosuke ถูกไหมครับ
Hirasawa: ใช่ครับ มันเป็นเรื่องเมื่อ 15 ปีที่แล้ว มีปลาซันเก้ที่ดีเหมาะกับการเป็นพ่อแม่พันธุ์ปลาอยู่ตัวหนึ่งที่Gosuke’s place ทำให้ Mr. Hiroji Sakai ไหว้วานให้ Mr.Takeda และ Mr. Ikuwa ช่วยเจรจาต่อรอง สุดท้ายเขาทั้ง2คนก็ซื้อปลาตัวนั้นกลับมาให้ Mr. Hiroji Sakai จนได้และนำมันมาที่ไดนิชิเพื่อรอการส่งต่อไปที่ซาไก ซึ่งตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นมันผมคิดกับตัวเองว่า”ผมอยากเพาะปลาตัวนี้” ผมพยายามขอซื้อปลาตัวนี้จาก Mr.Takeda แต่ว่าไม่ได้ผล แต่ด้วยความที่ผมอยากได้ปลาตัวนี้เป็นอย่างมากผมจึงขอร้อง Mr. Mano ให้ช่วยเจรจา และ Mr. Mano ได้โทรคุยกับ Mr.Takeda ว่า” ช่วยบอก Mr. Hiroji Sakai ด้วยว่าผมเสียใจจริงๆแต่คนของผมอยากได้ปลาตัวนี้มาก…………………….” สุดท้ายผมก็ได้ปลาตัวนี้มาจาก Mr. Hiroji Sakai ครับ
(รูปแม่ปลาจาก Gosuke)
Koi-bito: คุณต้องอยากได้มันมากแน่ๆ แล้วปฎิกิริยาของ Mr. Mano เป็นอย่างไรหลังจากที่คุณบอกว่าคุณอยากได้ปลาตัวนี้
Hirasawa: อืม...ปลาตัวนี้มีสีแดงที่น้อยมากๆแต่ชั้นสีแดงนั้นหนาอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนรูปร่างก็เต็มดีจรดหางและได้สัดส่วน ผมต้องการมันตั้งแต่แรกเห็นแต่ด้วยผมเป็นแค่ลูกจ้างที่ไดนิชิกินเงินเดือนเท่านั้นและปลาตัวนี้แพงเป็นล้านเยนทำให้ Mr. Manoถามผมว่า”คุณซื้อไหวจริงๆเหรอ ถ้าไหว ชั้นก็สามารถขอมาให้ได้” ผมตอบไปว่า”ไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องเอามาให้ได้” สุดท้ายปลาตัวนี้ก็มาอยู่ที่มารูโดะครับ ผมยอมรับตรงๆเลยว่าผมเองก็เครียดอยู่เหมือนกันตอนที่ Mr. Mano ถามผม
Koi-bito: ตอนที่คุณตัดสินใจซื้อ คุณคิดว่ามันจะแพงมากไหม
Hirasawa: ไม่เลยผมคิดว่าอย่างมากก็ 1 ล้านเยนแต่สุดท้ายก็เกินกว่านั้นครับ(หัวเราะ)
Koi-bito: จากนั้นปลาซันเก้ตัวนี้ก็กลายเป็นแม่พันธุ์หลักของคุณ
Hirasawa:ใช่ครับ ผมเพาะมันอยู่ 2 ปี(2ครั้ง) ได้ปลาที่มีคุณภาพจำนวนหนึ่ง
Koi-bito: แล้วลูกๆมันไปอยู่ที่ไหนบ้างครับ
Hirasawa:ไปอยูกับ Mr. Shinji Matsumoto …ผมมีเรื่องเล่าอยู่นิดหน่อยครับ ตอนที่ผมได้ปลาตัวนี้มาจาก Mr. Hiroji Sakai นั้นเขาบอกผมว่าเขาตั้งใจว่าจะใช้ปลาเพศผู้จากการเพาะปลาตัวนี้มาทำพ่อพันธุ์ที่ฟาร์มซาไก ผมจึงส่งปลาไปให้เขา 2-3 ตัวและมันได้กลายเป็นพ่อพันธุ์ของปลาซันเก้ที่ซาไก
Koi-bito: ปลาแกรนแชมป์งาน All Japan ครั้งที่ 32 เป็นลูกที่เกิดจากปลาที่คุณส่งไปให้หรือเปล่าครับ
Hirasawa: ใช่ครับ
Koi-bito: คุณรู้ไหมครับว่า Mr. Hiroji Sakai จับคู่พ่อพันธุ์นั้นกับปลาอะไร
Hirasawa: ผมคิดว่าเขาน่าจะจับคู่กับแม่พันธุ์ที่เขาเพาะขึ้นเอง
Koi-bito: คุณยังมีพ่อแม่พันธุ์Gosukeอยู่ไหมครับ
Hirasawa: ไม่ครับ ผมเพาะมันได้แค่ 3 – 4 ปีก่อนที่มันจะตาย
Koi-bito: แล้วคุณมีลูกของมันที่เก็บไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ไหมครับ
Hirasawa:มีครับ และผมก็กำลังใช้มันอยู่ครับ
Koi-bito: ถ้างั้น Bloodline นี้ก็ยังมีอยู่สิครับ
Hirasawa:ถูกต้องครับ
Koi-bito: แล้วมีกี่คู่ครับที่เก็บไว้
Hirasawa: แม่พันธุ์ 3 ตัว กับพ่อพันธุ์ 2 ตัวครับ
Koi-bito: คุณจับคู่มันกับซันเก้สายอื่นสินะครับ
Hirasawa:ใช่ครับ
Koi-bito: คุณทำเช่นนี้เพื่อป้องกันการผสมสายเลือดที่ใกล้กันสิครับ
Hirasawa: ก็ไม่เชิงครับ ผมจะจับคู่กับปลาที่ผมอยากจะลอง
Koi-bito: ช่วยยกตัวอย่างปลาที่คุณใช้จับคู่ตอนนี้หน่อยสิครับ
Hirasawa: ตอนนี้ผมจับคู่มันกับ Matsunosuke หรือไม่ก็ Dainishi Sadazo
(ปลาแม่พันธุ์จาก matsunosuke และซ้ายมือปลาพ่อพันธุ์จากGosuke และขวาบนปลาพ่อพันธุ์จากไดนิชิ)
Koi-bito: แล้วลูกปลาที่เกิดมาเป็นอย่างไรบ้างครับ
Hirasawa: เราได้ลูกปลาที่มีคุณภาพดีไม่มากนัก
Koi-bito: แล้วสีดำเป็นอย่างไรบ้างครับ
Hirasawa: สีดำดีเลยครับ มี Kakuzumi ( square zumi )ที่ดูสวยงามตา
************************************************************************
No comments:
Post a Comment